Christian Siam

 

 

 

 

Christian Siam - เว็บสำหรับคนอยากรู้จักพระเจ้า

 
 :: สำหรับผู้สนใจพระเจ้า ::
Christian Siam คำถาม - คำตอบ
Christian Siam พระเยซูคือใคร
Christian Siam พระเยซูเกิดจริงหรือ?
Christian Siam เราเกิดมาทำไม
Christian Siam เราตายแล้วไปไหน
Christian Siam ทฤษฎีวิวัฒนาการ...จริง?
Christian Siam เป็นคริสเตียนได้อย่างไร
Christian Siam คำพยานชีวิต

Christian Siam
H O M E
:: สำหรับคริสเตียนใหม่ ::
:: สื่อคริสเตียนออนไลน์ ::
Christian Siam มานาประจำวัน
Christian Siam เพลงจาก Youtube
 

                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN

         CHRISTIAN SIAM.COM
         CHRISTIAN SIAM.COM
         CHRISTIAN SIAM.COM

                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN



คนที่เชื่อพระเยซูนั้นไม่ไหว้บรรพบุรุษ ไม่กตัญญู  ใช่หรือไม่ ?

พระคัมภีร์เน้นมาก  ก็คือ  เรื่องที่ต้องกตัญญูต่อพ่อแม่  และนี่ก็เป็น 1 ในบัญญัติ 10 ประการของพระเจ้า  โดย 4 ข้อแรกนั้นพูดถึงพระเจ้า  และ 6 ข้อหลังนั้นพูดถึงคน   ท่ามกลาง 6 ข้อหลังนั้น  ข้อที่กตัญญูพ่อแม่นั้น  อยู่ในตำแหน่งที่สำคัญที่สุด  และพระคัมภีร์ยังได้บอกว่า  คนที่ไม่กตัญญูต่อพ่อแม่ และกลับแช่งด่าพ่อแม่  ต้องโดนก้อนหินขว้างจนถึงตาย (เลวีนิติ 20:9)  เพราะฉะนั้น  ศาสนาคริสเตียน  ให้ความสำคัญกับการกตัญญูต่อพ่อแม่มาก

คริสเตียนสยาม - เว็บสำหรับคนอยากรู้จักพระเจ้า
แต่วิธีการที่เรากตัญญูต่อพ่อแม่นั้น  ไม่ได้หมายความว่า  รอพวกเขาตายไปแล้วกราบไหว้พวกเขาเหมือนกับผู้วิเศษ  เพราะถ้าหากตอนที่พ่อแม่มีชีวิตอยู่  ไม่กตัญญู  ตายแล้วมากราบไหว้  นั่นเป็นการหลอกลวงตนเอง และหลอกลวงพ่อแม่  และไม่ว่าศาสนาพุทธ หรือศาสนาคริสต์  อิสลาม  หรือศาสนาใด ๆ ก็ตาม  ต่างก็ไม่เชื่อว่าคนตายไปแล้วจะมีฤทธิ์เป็นผู้วิเศษ  การที่ลูกหลานไปไหว้นั้น  เป็นเพียงประเพณีที่สืบทอดกันมาเท่านั้น

คุณลองคิดดูซิ  การที่พ่อแม่หลายคน ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ทำความชั่วไว้มากมาย  ตายไปแล้วกลายเป็นผู้วิเศษ  สามารถที่จะคุ้มครองและประทานพรให้แก่ลูกหลานได้นั้น  มันสมควรหรือไม่ ?


และถึงแม้คริสเตียนจะไม่กราบไว้บรรพบุรุษ  แต่เราก็มีพิธีที่จะระลึกและแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ได้อย่างดีที่สุด  นั่นคือ  ทุกครั้งที่เราไปทำความสะอาดหลุมฝังศพนั้น  เราก็นำดอกไม้ไปวาง  และอธิษฐานขอบคุณพระเจ้า  และก็จะระลึกถึงคำสั่งสอนของพ่อแม่  และเล่าเรื่องการต่อสู้ของพ่อแม่เราให้แก่ลูกหลานฟัง  และการกระทำเช่นนี้ไม่ใช่เป็นการกตัญญูต่อพ่อแม่หรือ ?  ทำไมต้องใช้การจุดธูปเทียนไหว้จึงจะนับว่ากตัญญูด้วยเล่า ? (บางคนใจไม่ได้ระลึกถึงพ่อแม่แม้แต่นิดเดียว)

เพราะฉะนั้น  การกตัญญูพ่อแม่ที่จริงนั้น  มันขึ้นอยู่ที่ใจ  ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับพิธีกรรม

นรกอยู่ที่ไหน สวรรค์อยู่ที่ไหน แดนคนตายและเมืองบรมสุขเกษมนั้นเป็นสถานที่อย่างไร ?

คนที่ถามปัญหาเช่นนี้  เพราะตามความคิดของเขา  เขาคิดว่าในจักรวาลนี้ไม่มีทางหาสถานที่ที่เรียกว่า สวรรค์ หรือนรก ได้อย่างแน่นอน  สุดท้ายจึงไม่ยอมเชื่อว่านรกสวรรค์นั้นมีอยู่จริง

แท้จริงแล้ว  ความคิดนี้ไร้เดียงสาจริง ๆ  เรพาะประการแรก  มนุษย์มีความรู้เกี่ยวกับจักรวาลนี้น้อยมากจริง ๆ  ถ้าหากพระเจ้าบอกว่าสวรรค์  นรกนั้นอยู่ในดาวดวงหนึ่งในกาแลคซีอันใดอันหนึ่งแล้ว  พวกเราจะมีทางพิสูจน์ได้อย่างไรล่ะว่ามีจริง 

แท้จริงแล้วที่เรียกว่าสวรรค์ นรกนั้น  เป็นสถานที่ที่พระเจ้าสร้างไว้สำหรับลงโทษมนุษย์หรือฑูตสวรรค์ที่ตกต่ำ (คือได้ใช้อิสระในการเลือกในทางที่ผิด)  ขอเพียงแต่มีพระเจ้าผู้ทรงพิพากษาด้วยความยุติธรรม  ก็จะต้องมีนรก และสวรรค์อยู่อย่างแน่นอน

ก็เหมือนกับคนที่ทำผิดกฎหมาย  เขาไม่จำเป็นต้องถามว่า "คุกอยุ่ที่ไหน"  ขอเพียงแค่มีศาลยุติธรรมอยู่เท่านั้น  ก็จะมีคุกเตรียมไว้ให้เขาอย่างแน่นอน (เพราะถ้าไม่เช่นนั้น  หลังจากศาลตัดสินแล้ว  นักโทษจะอยู่ที่ไหน)

เช่นเดียวกัน  พระคัมภีร์ได้บอกพวกเราว่า  เมื่อคนที่ทำบาปตายไปแล้ว  พวกเขาจะต้องไปอยู่สถานที่ที่หนึ่ง  ที่เรียกว่า "แดนคนตาย"  ที่นั่นเต็มไปด้วยไฟ และมีแต่ความทุกข์ทรมาน  แต่ที่นั่นเป็นเพียง "ที่กักขัง" ชั่วคราวเท่านั้น  รอจนถึงวันที่พระเจ้าจะทรงพิพากษามนุษย์ (คือวันสุดท้ายของโลก)  บรรดาคนบาปทุกคนจะฟื้นขึ้นมาใหม่  และจะต้องเผชิญกับการพิพากษาของพระเจ้า  และเมื่อถึงเวลานั้น  คนที่ทำบาปจะถูกกำหนดโทษ  แล้วแต่การกระทำของเขาว่าหนักหรือเบา  และหลังจากนั้นก็จะถูกทิ้งลงไปในนรก  รับความทุกข์ทรมานนิจนิรันดร์

และเมื่อพูดถึงสวรรค์แล้ว  พระคัมภีร์ได้บอกพวกเราว่า  หลังจากที่พวกเราที่เชื่อในพระเยซูคริสต์นั้นได้ตายลง  ก็จะไปที่ที่หนึ่ง  ที่เรียกว่า "เมืองบรมสุขเกษม"  ที่นั่นก็คือที่ที่พระเยซูทรงประทับอยู่  และพระเยซูยังทรงจัดเตรียมเมืองใหม่ให้แก่เรา  เมืองนี้ชื่อ "กรุงเยรูซาเล็มใหม่"  เมืองนี้ก็คือเมืองสวรรค์  และในอนาคตบรรดาคนที่เชื่อพระเยซูและได้รับความรอด  พวกเขาจะฟื้นจากความตาย  หลังจากนั้นก็จะเข้าสวรรค์พร้อมกัน และอาศัยอยู่กับพระเจ้าเป็นนิจนิรันดร์

พระเจ้าเกี่ยวข้องอะไรกับฉัน ทำไมพระองค์จึงมีสิทธิ์ที่จะพิพากษาฉัน ?

ถ้าหากพระเจ้าเป็นสิ่งมีชีวิตในดวงดาวอื่น  พระองค์ก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของเรา  พระองค์ก็ไปตามทางของพระองค์  เราก็ดำเนินตามทางของเรา  ไม่เห็นจะเกี่ยวข้องกัน  พระองค์ไม่จำเป็นต้องมาดูแล หรือมามีสิทธิ์ที่จะพิพากษาพวกเราเลย

แต่ความจริงไม่ใช่เช่นนั้น  เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างพวกเราทุกคนขึ้นมา  และพระองค์ก็ทรงเป็นผู้สร้างฟ้าสวรรค์และจักรวาลนี้ด้วย  ในเมื่อเป็นเช่นนี้  เป็นธรรมดาที่พระองค์จะต้องทรงมีเป้าหมาย และมาตรฐานของพระองค์ในการทรงสร้างพวกเรา  และแน่นอน  พระองค์ก็มีสิทธิ์ที่จะพิพากษาพวกเราด้วย

ก็เหมือนกับว่า  ถ้าเราเป็นเจ้าของโรงงานวิทยุ  เมื่อเราสร้างวิทยุขึ้นมา  เราก็มีมาตรฐานในการสร้างวิทยุให้ได้ตามที่เราต้องการและตามความพอใจของเรา  แต่ถ้ามีวิทยุเครื่องไหนมันดันไม่ได้ตามมาตรฐานที่พวกเรากำหนดไว้  เราก็มีสิทธิ์ที่จะ "ซ่อมแซม" หรือ "ทำลาย" มันได้อย่างแน่นอน

ความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับเรา ก็เป็นเหมือนเช่นนี้แหละ  พวกเราที่เป็นมนุษย์  ได้ทำความผิดบาปต่อพระเจ้า  ทั้งทางตรงและทางอ้อม  คือ การดำเนินชีวิตไม่ได้ตามมาตรฐานของพระองค์ที่ได้ทรงวางไว้  ทำให้พระสิริของพระเจ้าเสื่อมไป  และทำให้พระนามของพระเจ้าเป็นมลทิน  แล้วเช่นนั้นพระองค์จะไม่มีสิทธิ์ในการพิพากษาพวกเราหรือ

อ. นิกร สิทธิจริยาภรณ์
จากหนังสือ คุณพร้อมแล้วหรือ?

Back 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 Next

 © Copyright 2009. Christian Siam.com